Archive for 2009

โรคซึมเศร้า

No Comments »

สำหรับคนส่วนใหญ่แล้วคำว่าโรคซึมเศร้าฟังดูไม่คุ้นหู ถ้าพูดถึงเรื่องซึมเศร้าเรามักจะนึกกัน


ว่าเป็นเรื่องของอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดจากความผิดหวัง หรือการสูญเสียมากกว่าที่จะเป็น

โรค ซึ่งตามจริงแล้ว ที่เราพบกันในชีวิตประจำวันส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องของอารมณ์ความ

รู้สึกธรรมดาๆ ที่มีกันในชีวิตประจำวัน มากบ้างน้อยบ้าง อย่างไรก็ตามในบางครั้งถ้าอารมณ์

เศร้าที่เกิดขึ้นนั้นเป็นอยู่นานโดยไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น หรือเป็นรุนแรง มีอาการต่างๆ ติดตาม

มา เช่น นอนหลับๆ ตื่นๆ เบื่ออาหาร น้ำหนักลดลงมาก หมดความสนใจต่อโลกภายนอก

ไม่คิดอยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป ก็อาจจะเข้าข่ายของโรคซึมเศร้าแล้ว



คำว่า "โรค" บ่งว่าเป็นความผิดปกติทางการแพทย์ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาเพื่อ

ให้อาการทุเลา ต่างจากภาวะอารมณ์เศร้าตามปกติธรรมดาที่ถ้าเหตุการณ์ต่างๆ รอบตัว

คลี่คลายลง หรือมีคนเข้าใจเห็นใจ อารมณ์เศร้านี้ก็อาจหายได้

ผู้ที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้านอกจากมีอารมณ์ซึมเศร้าร่วมกับอาการต่างๆ แล้ว การทำงานหรือ

การประกอบกิจวัตรประจำวันก็แย่ลงด้วย คนที่เป็นแม่บ้านก็ทำงานบ้านน้อยลงหรือมีงานบ้าน

คั่งค้าง คนที่ทำงานนอกบ้านก็อาจขาดงานบ่อยๆ จนถูกเพ่งเล็ง เรียกว่าตัวโรคทำให้การ

ประกอบกิจวัตรประจำวันต่างๆ บกพร่องลง หากจะเปรียบกับโรคทางร่างกายก็คงคล้ายๆ

กัน เช่น ในโรคหัวใจ ผู้ที่เป็นก็จะมีอาการต่างๆ ร่วมกับการทำอะไรต่างๆ ได้น้อยหรือไม่ดี

เท่าเดิม



ดังนั้น การเป็นโรคซึมเศร้าไม่ได้หมายความว่า ผู้ที่เป็นเป็นคนอ่อนแอ คิดมาก หรือเป็นคนไม่

สู้ปัญหา เอาแต่ท้อแท้ ซึมเซา แต่ที่เขาเป็นนั้นเป็นเพราะตัวโรค กล่าวได้ว่าถ้าได้รับการรักษา

ที่ถูกต้องเหมาะสม โรคก็จะทุเลาลง เขาก็จะกลับมาเป็นผู้ทีจิตใจแจ่มใส พร้อมจะทำกิจวัตร

ต่างๆ ดังเดิม



ผู้ที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมค่อนข้างมาก การเปลี่ยนแปลงหลักๆ

จะเป็นในด้านอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด พฤติกรรม ร่วมกับอาการทางร่างกายต่างๆ ดังจะได้

กล่าวต่อไป





การเปลี่ยนแปลงในผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้า

การเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นในผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้าดังที่จะกล่าวต่อไปนี้ อาจเป็นแบบค่อย เป็นค่อยไปเป็นเดือนๆ หรือเป็นเร็วภายใน 1-2 สัปดาห์เลยก็ได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัย

เช่น มีเหตุการณ์มากระทบรุนแรงมากน้อยเพียงได บุคลิกเดิมของเจ้าตัวเป็นอย่างไร มีการ

ช่วยเหลือจากคนรอบข้างมากน้อยเพียงได เป็นต้น และผู้ที่เป็นอาจไม่มีอาการตามนี้ไปทั้ง หมด แต่อย่างน้อยอาการหลักๆ จะมีคล้ายๆ กัน เช่น รู้สึกเบื่อเศร้า ท้อแท้ รู้สึกตนเองไร้ค่า

นอนหลับไม่ดี เป็นต้น





ลักษณะการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ

1. อารมณ์เปลี่ยนแปลงไป ที่พบบ่อยคือจะกลายเป็นคนเศร้าสร้อย หดหู่ สะเทือนใจง่าย ร้องไห้บ่อย เรื่องเล็กๆน้อยๆ ก็ดูเหมือนจะอ่อนไหวไปหมด บางคนอาจไม่มีอารมณ์เศร้า

ชัดเจนแต่จะบอกว่าจิตใจหม่นหมอง ไม่แจ่มใส ไม่สดชื่นเหมือนเดิม



บางคนอาจมีความรู้สึกเบื่อหน่ายไปหมดทุกสิ่งทุกอย่าง สิ่งที่เดิมตนเคยทำแล้วเพลินใจหรือ

สบายใจ เช่น ฟังเพลง พบปะเพื่อนฝูง เข้าวัด ก็ไม่อยากทำหรือทำแล้วก็ไม่ทำให้สบายใจขึ้น

บ้างก็รู้สึกเบื่อไปหมดตั้งแต่ตื่นเช้ามา



บางคนอาจมีอารมณ์หงุดหงิดฉุนเฉียวง่าย อะไรก็ดูขวางหูขวางตาไปหมด กลายเป็นคน

อารมณ์ร้าย ไม่ใจเย็นเหมือนก่อน



2. ความคิดเปลี่ยนไป มองอะไรก็รู้สึกว่าแย่ไปหมด มองชีวิตที่ผ่านมาในอดีตก็เห็นแต่ความ

ผิดพลาดความล้มเหลวของตนเอง ชีวิตตอนนี้ก็รู้สึกว่าอะไรๆก็ดูแย่ไปหมด ไม่มีใครช่วย

อะไรได้ ไม่เห็นทางออก มองอนาคตไม่เห็น รู้สึกท้อแท้หมดหวังกับชีวิต



บางคนกลายเป็นคนไม่มั่นใจตนเองไป จะตัดสินใจอะไรก็ลังเลไปหมด รู้สึกว่าตนเองไร้ความ

สามารถ ไร้คุณค่า เป็นภาระแก่คนอื่น ทั้งๆ ที่ญาติหรือเพื่อนๆ ก็ยืนยันว่ายินดีช่วยเหลือ เขา

ไม่เป็นภาระอะไรแต่ก็ยังคงคิดเช่นนั้นอยู่



ความรู้สึกว่าตนเองไร้ค่า ความคับข้องใจ ทรมานจิตใจ เหล่านี้อาจทำให้เจ้าตัวคิดถึงเรื่อง

การตายอยู่บ่อยๆ แรกๆ ก็อาจคิดเพียงแค่อยากไปให้พ้นๆ จากสภาพตอนนี้ ต่อมาเริ่มคิด

อยากตายแต่ก็ไม่ได้คิดถึงแผนการณ์อะไรที่แน่นอน เมื่ออารมณ์เศร้าหรือความรู้สึกหมด

หวังมีมากขึ้น ก็จะเริ่มคิดเป็นเรื่องเป็นราวว่าจะทำอย่างไร ในช่วงนี้หากมีเหตุการณ์มา

กระทบกระเทือนจิตใจก็อาจเกิดการทำร้ายตนเองขึ้นได้จากอารมณ์ชั่ววูบ



3. สมาธิความจำแย่ลง จะหลงลืมง่าย โดยเฉพาะกับเรื่องใหม่ๆ วางของไว้ที่ไหนก็นึกไม่ ออก ญาติเพิ่งพูดด้วยเมื่อเช้าก็นึกไม่ออกว่าเขาสั่งว่าอะไร จิตใจเหม่อลอยบ่อย ทำอะไร

ไม่ได้นานเนื่องจากสมาธิไม่มี ดูโทรทัศน์นานๆ จะไม่รู้เรื่อง อ่านหนังสือก็ได้ไม่ถึงหน้า

ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ทำงานผิดๆถูกๆ



4. มีอาการทางร่างกายต่างๆ ร่วม ที่พบบ่อยคือจะรู้สึกอ่อนเพลียไม่มีเรี่ยวแรง ซึ่งเมื่อพบ

ร่วมกับอารมณ์รู้สึกเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไร ก็จะทำให้คนอื่นดูว่าเป็นคนขี้เกียจ ปัญหา

ด้านการนอนก็พบบ่อยเช่นกัน มักจะหลับยาก นอนไม่เต็มอิ่ม หลับๆตื่นๆ บางคนตื่นแต่เช้ามืด

แล้วนอนต่อไม่ได้



ส่วนใหญ่จะรู้สึกเบื่ออาหาร ไม่เจริญอาหารเหมือนเดิม น้ำหนักลดลงมาก บางคนลดลง

หลายกิโลกรัมภายใน 1 เดือน นอกจากนี้ยังอาจมีอาการท้องผูก อืด แน่นท้อง ปากคอแห้ง

บางคนอาจมีอาการปวดหัว ปวดเมื่อยตามตัว



5. ความสัมพันธ์กับคนรอบข้างเปลี่ยนไป ดังกล่าวบ้างแล้วข้างต้น ผู้ที่เป็นโรคนี้มักจะดู

ซึมลง ไม่ร่าเริง แจ่มใส เหมือนก่อน จะเก็บตัวมากขึ้น ไม่ค่อยพูดจากับใคร บางคนอาจ

กลายเป็นคนใจน้อย อ่อนไหวง่าย ซึ่งคนรอบข้างก็มักจะไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงเปลี่ยนไป

บางคนอาจหงุดหงิดบ่อยกว่าเดิม แม่บ้านอาจทนที่ลูกๆ ซนไม่ได้ หรือมีปากเสียงระหว่าง

คู่ครองบ่อยๆ



6. การงานแย่ลง ความรับผิดชอบต่อการงานก็ลดลง ถ้าเป็นแม่บ้านงานบ้านก็ไม่ได้ทำ

หรือทำลวกๆ เพียงให้ผ่านๆ ไป คนที่ทำงานสำนักงานก็จะทำงานที่ละเอียดไม่ได้เพราะ

สมาธิไม่มี ในช่วงแรกๆ ผู้ที่เป็นอาจจะพอฝืนใจตัวเองให้ทำได้ แต่พอเป็นมากๆ ขึ้นก็จะ

หมดพลังที่จะต่อสู้ เริ่มลางานขาดงานบ่อยๆ ซึ่งหากไม่มีผู้เข้าใจหรือให้การช่วยเหลือ

ก็มักจะถูกให้ออกจากงาน



7. อาการโรคจิต จะพบในรายที่เป็นรุนแรงซึ่งนอกจากผู้ที่เป็นจะมีอาการซึมเศร้ามากแล้ว

จะยังพบว่ามีอาการของโรคจิตได้แก่ อาการหลงผิดหรือ ประสาทหลอนร่วมด้วย ที่พบบ่อย

คือ จะเชื่อว่ามีคนคอยกลั่นแกล้ง หรือประสงค์ร้ายต่อตนเอง อาจมีหูแว่วเสียงคนมาพูดคุย

ด้วย อย่างไรก็ตามอาการเหล่านี้มักจะเป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น เมื่อได้รับการรักษา อารมณ์

เศร้าดีขึ้น อาการโรคจิตก็มักทุเลาตาม

เกรียน

No Comments »

ความหมายของ "เกรียน"







เกรียน เป็นคำสแลงแทนบุคคลหรือกลุ่มบุคคล ที่มีพฤติกรรมก่อกวน ก้าวร้าวทางคำพูดและความคิด ไร้เหตุผล หรือคิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของสังคมอินเทอร์เน็ต โดยมักจะแสดงออกในลักษณะที่ควบคุมตัวเองไม่ได้เหมือนเด็กไม่ได้รับความสนใจ บุคคลกลุ่มนี้จะใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผลหรือการวิเคราะห์ไตร่ตรอง






































คำว่า เกรียน มาจากทัศนคติของบุคคลที่เป็นเด็กนักเรียนชายที่ตัดผมสั้นหัวเกรียน ซึ่งมักจะแสดงพฤติกรรมดังกล่าวอยู่บ่อยๆ และกลุ่มบุคคลที่อยู่ในสภาวะเกรียน ส่วนใหญ่จะเป็นเด็ก และยังเป็นกลุ่มเด็กที่เล่นเกมออนไลน์อีกด้วย เมื่อถูกเรียกบ่อยครั้งเข้า คำนี้จึงใช้แทนกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมเหล่านั้นไปเสีย โดยไม่คำนึงถึงอายุ มีการเปรียบเทียบว่า เกรียน คล้ายกับลักษณะของ นู้บ (noob, n00b) หรือ นูบี (newbie) ซึ่งเป็นกลุ่มบุคคลในอินเทอร์เน็ตตามเว็บบอร์ด หรือเกมออนไลน์ ที่มักจะเป็นคนใหม่และทำตัวเหมือนรู้ทุกเรื่อง (แต่ไม่ได้รู้จริงหรือไม่รู้เลย)


















นอกจากนี้ยังมีความหมายถึงผู้ที่ไม่มีมารยาทในการเล่นอินเทอร์เน็ต โดยจะเห็นตัวอย่างบ่อยๆ ในเกมออนไลน์ ซึ่งคำว่าเกรียนในที่นี้หมายถึงผู้ที่มีความประพฤติที่ไม่เหมาะสมดังกล่าว ไม่ใช่หมายถึงนักเรียนทั้งหมดที่ไว้ผมสั้นเกรียนแต่อย่างใด


















ข้อมูลควรรู้






ร้อยละ 0.01 ของเกรียนเป็นผู้หญิงท่าทางเรียบร้อย (หรืออาจไม่เรียบร้อย แต่ก็มีให้เห็น แม้จะยากมากกกก็ตาม)


ถ้าเป็นจริงรบกวนคุณผู้ชายช่วยดูแลแฟนคุณอย่างใกล้ชิดด้วย






ร้อยละ 70 ของเด็กผู้ชายใส่แว่นท่าทางเด็กเรียนส่วนใหญ่มักจะทำตัวเกรียนในเกมส์ออนไลน์






และร้อยละ 50 ของบุคคลในวัยเรียนทั่วประเทศ เกรียน


พฤติกรรมที่เกรียนแสดงออกนั่นคือ เป็นสิ่งที่ใช้แต่ปาก และมือพิมพ์ ดังนั่นเกรียนจึงไม่มีบทบาทในโลกความจริง ในโทรศัพท์มือถือมักจะมีแต่คลิบโป๊,โดจิน,เบอร์ผู้หญิง ฯลฯ






ร้อยละ 60 ของเกย์คิงทั่วประเทศ เกรียน






ร้อยละ 50 ของเกรียน เล่นเกมส์ Ragnarok DotA Pangya Luna SF อย่างใดอย่างหนึ่ง






ร้อยละ 50 ของเกรียน จะมีเว็ปบอร์ดประจำที่ตนสิงสู่อยู่






ร้อยละ 80 ของเกรียน จะพูดเรื่องเกมกับเพื่อนมากกว่าที่จะคุยเรื่องอื่นและจะมีความสุขเป็นอย่าง มากถ้าพวกเขาได้พูดคุยเกี่ยวกับวีรกรรมของเขา (หมายเหตุ คำว่าพูดคุยสำหรับเกรียนเปรียบเทียบได้เท่ากับคำว่า "โม้")






ร้อยละ 99.9999 ของเกรียน จะไม่ยอมรับว่าตัวเองคือเกรียน


ท่านสามารถเห็นเกรียนได้ตามร้านเกมทั่วไป 99.95431004% ของเกรียนในร้านเกมจะชอบตะโกนโหวกเหวก






ร้อยละ 80 ของเกรียนตามร้านเกม จะติดคำพูด คำหนึ่งคือ "dotไหมพี่?"






ร้อยละ 99 ของเกรียนตามร้านเกมที่ติดคำ ว่า "dotไหมพี่?" จะแพ้เสมอๆ แต่พวกเขาก็สามารถหาข้ออ้างมาแก้ตัวได้เช่นกัน ส่วนมากจะใช้คำว่า "กุอ่อนให้"

Princess Of ThailanD

No Comments »

พระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
เมื่อครั่งพระองค์เสด็จพระราชดำเนินเกาะปูยู จังหวัดสตูลเมื่
อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
นับเป็นพระฉายาลักษณ์ที่เมื่อพสกนิกรชาวไทยได้เห็นต่างอมยิ้มอย่างมีความสุข

จนถูกกล่าวขานกันว่า เป็นขบวนเสด็จฯที่น่ารักที่สุดในโลก





และภาพต่อไป ท่านอยากทอดพระเนตรวิ่งคบเพลิง

แต่ไม่ได้วางหมายกำหนดการเลยต้องแอบมาทอดพระเนตรข้างรั้วแบบนี้

เพราะทรงเกรงใจเจ้าหน้าที่เนื่องจากงานจะป่วนถ้าจะไปปรากฎพระองค์ใกล้ๆ







ต่อไปเป็นบทความจาก Forward Mail

เพื่อนผมเคยเล่าให้ฟังว่า สักประมาณ 20 ปีที่แล้ว
ขณะที่เขากำลังเดินดูหนังสือใน ร้านหนังสือดวงกมล สยามแสควร์
ก็มีนิสิตหญิงจุฬาสองสามคน เดินเข้ามาในร้าน นิสิตคนหนึ่งใบหน้า
สวยคม จัดว่าสวยน่ารัก แต่ใบหน้าดูคุ้นเหลือเกิน
ทันใดเขาก็เห็นคนเริ่มไหว้บ้าง ค้อมศรีษะบ้าง ให้แก่นิสิตคนนั้น
แต่ก็มีเสียงเอ่ยขึ้นมาอย่างเกรงใจจากนิสิตคนนั้นว่า
"ไม่เป็นไรค่ะขอบคุณค่ะ วันนี้เป็นนิสิต มาหาซื้อหนังสือ
เชิญทุกท่านตามสบายค่ะ" ทุกคำที่เอ่ยจะมีคำว่า "ค่ะ" ตลอด
แล้วก็หันไปยิ้มแบบเขิน ๆ
กับเพื่อนทีมาด้วยกริยาช่างงามน่ารักเหลือเกิน เพื่อนผมย้ำ
ทันใดนิสิตกลุ่มนั้นก็หันไปเห็นผู้อาวุโสท่านหนึ่งกำลังเดินดูหนังสืออยู่
ในร้านเหมือนกัน จึงเดินเข้าไปหาพร้อมยกมือไหว้ผู้อาวุโสท่านนั้น
และนิสิตท่านก็เป็นผู้เอ่ยทักว่า "สวัสดีค่ะ อาจารย์
มาหาซื้อหนังสือเหรอคะ" ทันใด ท่านอาวุโสก็สะดุ้ง
กำลังจะก้มและย่อตัวลงในท่าทำความเคารพ
แต่ความที่อยู่ในวัยชราจึงไม่ค่อยถนัด พร้อมกับเอ่ยขึ้นว่า "อ้าว
องค์หญิง กระหม่อมมาหาซื้อหนังสือ พะยะค่ะ"
ในตอนนั้นเพื่อนผมก็จำได้ขึ้นมาว่านิสิตท่านนั้นก็คือ สมเด็จพระเทพฯ
นั่นเอง ในตอนนั้นพระเทพก็ทรงเข้ามาประคอง อาจารย์ท่านนั้น
พร้อมกับรับสั่ง "ไม่เป็นไรค่ะ อาจารย์ หนูกับเพื่อน
มาหาซื้อหนังสือเหมือนกัน ค่ะ" เพื่อนผม บอกว่า
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ผมรัก และเทอดทูนเจ้าหญิงองค์น้อยเสมอมา
ด้วยความที่ท่านไม่ทรงถือพระองค์ ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์
ผมเคยอ่านจากหนังสือสกุลไทย ช่วงตอบปัญหาของใครจำไม่ได้แล้ว

มีคนเขียนไปถามเจ้าของคอลัมภ์ว่าจริงหรือเปล่าที
พระองค์เคยเสด็จเป็นการส่วนพระองค์ยังเมืองทองธานี
เพื่อเสวยร้านอาหารโต้รุ่ง ก็มีคำตอบว่าจริง
พระองค์เคยเสด็จอย่างส่วนพระองค์จริงๆกับ คุณข้าหลวงอีก 2
คนไม่มีองครักษ์ติดตาม คือเสด็จยังร้านอาหารตามสั่งทั่วไปริมถนน
ตอนแรกไม่มีใครจำพระองค์ได้เลย แต่มี 2 สามีภรรยาคู่หนึ่งเห็นเข้า
ฝ่ายสามีบอกว่าไม่ใช่สมเด็จพระเทพหรอกเพราะนี่คือร้านอาหารโต้รุ่งแล้วก็ดึก
มาก แล้วด้วย แต่ฝ่ายภรรยาบอกว่าเหมือนมากก็โต้กันไปโต้กันมา
จนพระองค์ทรงได้ยินจึงหันพระพักตร์มาทาง 2 สามีภรรยานี้แล้วตรัสว่า
"ใช่ แต่ขอให้ทำตัวตาม สบาย" เท่านั้นแหละครับ 2
คนนี้ก็ก้มลงกราบจนคนอื่นๆแปลกใจ ก็หันมามองกันหมดทั้งร้าน
เจ้าของร้านกับเด็กเสริฟก็เพิ่งทราบ จึงรีบเข้าไปถวายความเคารพ
พวกพ่อค้าแม่ค้าแถวนั้น ก็นำอาหารของร้านตนมาถวาย
จนกระทั่งเสด็จกลับไป นี่แหละครับเจ้าหญิงในใจประชาชนพระองค์จริงๆ


จำได้ว่าตอนที่พระองค์ท่านเสด็จในงาน concert
กาชาดหลายปีแล้วแล้วพระองค์ท่านทรงเป่า trumpet เพลงคู่กัด
พอท่านทรงเป่าจบ คนดูก็ตบมือท่านก็ทรงรับสั่งว่า "
แปลกจังทำไมไม่มีเสียงกรี๊ดเลย" คนดูก็เงียบกริบ...
คงตะลึงมั้งท่านก็รับสั่งย้ำอีกครั้งเท่านั้นแหล่ะ..คนดูกรี๊ดถล่ม


ผมเคยเข้าไปเล่นคอนเสิร์ตหน้าพระที่นั่งศาลาดุสิตาลัย
เมื่อสิบห้าปีก่อน
พระเทพทรงประชวรหวัดเล็กน้อยแต่ก็ตรัสก่อนพวกผมเล่นกันว่า
"วันนี้ไม่มีเสียงกรี๊ดนะเป็นหวัด" พอตอนเล่น
ผมเลยบังอาจถวายแซวพระองค์ท่านว่า "ในฐานะรุ่นน้องจุฬาฯ
ขอพระราชทานอนุญาต เอ่ยพระนามพระองค์ว่า
พี่น้อยก็แล้วกันวันนี้ขอให้พี่น้อย หายหวัดเร็วๆ นะครับ"
คนดูในศาลาดุสิตาลัยเงียบกริบ ผมก็ชักหนาวสันหลังว่า
เหิมเกริมไปหรือเปล่า เพื่อนร่วมวงรีบชิงพูดต่อว่า มหาดเล็กครับ
ช่วยยิงให้ถูกคนด้วยแล้วกัน คนเลยฮากันตึง รอดไป
มีเพลงหนึ่งชื่อเพลงกล้วยไข่ ผมก็แปลงเป็นว่า
แปลกใจจริงพระเทพฯชอบอะไรพระเทพชอบกล้วยไข่ เพราะว่าพระองค์ทรงโปรด
ลัล ลัล ลัล ลา
ตอนไปรับพระราชทานดอกไม้จากพระหัตถ์ผมไปยกมือไหว้ท่าน
ท่านก็ตรัสย้อนผมว่า "ใครเค้าไหว้กัน เค้าโค้งจ้ะ"
จากนั้นท่านก็ตรัสว่า"ใครบอกฉันชอบกล้วยไข่ ฉันชอบกล้วยน้ำว่าย่ะ"
ผมไม่เคยลืมสักภาพเดียวเลยครับ


ตอนเป็นนักเรียนแถวสามย่านพระองค์ ท่านเป็นนิสิตแล้ว เคยแอบไปเดิน
"ส่อง"
รถพระที่นั่งซึ่งจอดอยู่หน้าหอประชุมจุฬาเห็นมีขนมขบเคี้ยวสารพัดใส่โหลเอาไว้
2-3โหล ทุกวัน ตลอด 4 ปีที่ทรงศึกษาอยู่
ผู้คนที่ต้องผ่านสัญจรแถวนั้นไม่เคยต้องเดือดร้อนกับการกั้นรถขบวนเป็นชั่วโมงๆ
เพียงรถพระที่นั่ง 1 คันกับรถตำรวจนำอีก 1 ที่ไม่เคยเปิดไซเรน
ไม่เคยเปิดโทรโข่ง ไม่เคยฝ่าไฟแดง เห็นพวกนักการเมือง
มีตำรวจนำตำรวจตาม วิ่งย้อนศร
กั้นรถให้แซงลัดคิวแล้วนึกถึงสิ่งที่พระองค์ปฏิบัติทุกครั้ง










กระโจนสู่โลกแห่งความสุข สุดสนุกรับปีใหม่

No Comments »

SHOPPING







Merry Christmas & Happy New Year at Isetan


Nov – 31 Dec 09


Isetan, all areas


ฉลองเทศกาลแห่งความสุขต้อนรับปี 2010 ด้วยของขวัญสุดพิเศษส่งตรงจากญี่ปุ่น อาทิ ขนมญี่ปุ่นในแพ็คเกจกิ๊บเก๋ แจ็คเก็ตสุดเท่ กระเป๋าผ้าญี่ปุ่น ที่ห้อยโทรศัพท์ ผลิตภัณฑ์จากผ้ากิโมโน และอื่นๆ อีกเพียบ






YWCA International Bazaar 2009


28-29 Nov 09


Atrium, Beacon, Eden and Forum Zone


เตรียมพบกับสินค้าราคาพิเศษที่เหล่าภรรยาเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยกว่า 40 ประเทศ นำมาร่วมออกบูธขายกว่า 140 บูธ โดยรายได้จากการขายสินค้าส่วนหนึ่งจะมอบให้การกุศล






European Union Christmas Market


23 Dec 09 – 5 Jan 10


Atrium, Beacon, Eden and Forum Zone


แหล่งรวมสินค้าสำหรับเทศกาลคริสต์มาสที่รวบรวมของขวัญมากมายจากประเทศสมาชิก EU มาไว้ให้ขาช้อปซื้อหาชนิดลืมเหนื่อยเลยทีเดียว






Season’s Giving 2010


1 Nov – 31 Dec 09


7th Floor, Central Food Hall


จัดกระเช้าของขวัญปีใหม่สำหรับมอบความสุขแด่คนที่คุณรักด้วยแนวคิด “Go Green” แนวคิดสีเขียวที่ช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อม ได้ทั้งของขวัญและได้ดูแลโลกของเราอีกด้วย






New Year Surprise! Fukubukuro Lucky Pack


1 Jan 10


Isetan, all areas


โชคดีรับปีใหม่กับเทศกาลถุงโชคดี “ฟุคุบุคุโร่” ซึ่งเต็มเพียบด้วยของขวัญสไตล์ญี่ปุ่นสุดชิคที่ขนมาให้คุณเลือกในราคาสุดเร้าใจ






Center Point is coming to town


1 Nov 09 – 8 Jan 10


7th Floor, Center Point at CentralWorld


เซ็นเตอร์พอยต์ แอต เซ็นทรัลเวิลด์ ขอต้อนรับปี 2010 ด้วยกองทัพของขวัญจาก “เซ็นเตอร์พอยต์ อินดี้ อิน ทาวน์” กว่า 100 ร้านค้า พร้อมมันส์กับวงดนตรีอินดี้สุดฮิปที่จะมาสร้างสีสันและเรียกเสียงกรี๊ดส่งท้ายปีเก่า






ZEN Design Showcase


1st & 2nd Floor, ZEN


แหล่งรวมแฟชั่นอินเทรนด์ แกดเจ็ตเวอร์ชั่นล่าสุด ของขวัญและของสะสมลิมิเต็ดอิดิชั่น จากทั่วทุกมุมโลก พร้อมบริการให้คำแนะนำการดีไซน์ใหม่ๆ โดย Taste Maker ผู้เชี่ยวชาญ






New Shops Opening @ CentralWorld


Kai, Pisit, f fashion (Dec ’09), Kate Spade (3 Dec ‘09), Gap (26 Feb ’10)










EAT + DRINK



CentralWorld Beer Garden 2009

1 Nov 09 – 1 Jan 10

CentralWorld Square

จิบเบียร์รสนุ่มและอิ่มอร่อยกับอาหารจานเด็ดจากนานาชาติไปพร้อมกับความมันส์ของคอนเสิร์ตสดๆ จากศิลปินดังทุกค่ำคืนในบรรยากาศลานเบียร์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย



New Restaurant Opening

3-31 Dec 09

6th Floor, Isetan

งานฉลองเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นพร้อมกันถึง 5 ร้านที่อิเซตัน KYOTO YOSHINO, DON DON TEI, ITALIAN TOMATO, BAKUDAN YA, TAMARUYA



7th Floor, Heaven on 7

After You, Summer by Spring Summer, Cookies Crust, Amaltery, HaRajuKu Café Crepes, HiTim, Gelateria Bar









EVENT + FUN






Light up the Christmas Tree


18 Nov 09


CentralWorld Square, Central Court


ร่วมเปิดไฟต้นคริสต์มาสที่สูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยในปีนี้จะจัดอย่างด้วยการจัดจำลองเก้าอี้ซานตาคลอสที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย พร้อมร่วมชมขบวนพาเหรดสุดอลังการและการแสดงการขับร้องเพลง Christmas Carol






Hands Bangkok Countdown2010


21 - 31 Dec 09


CentralWorld Square


นับถอยหลังพร้อมกันที่ CentralWorld กับงานยิ่งใหญ่ที่สุดใน Southeast asia เต็มที่กับ Mini Concert จากศิลปินชั้นนำ สนุกจนคุณจะไม่ลืมวินาทีสำคัญ






Thailand Pavilion (World Expo) 2010


1-17 Dec 09


Forum Zone


เตรียมความพร้อมก่อนถึงงาน World Expo 2010 ที่เมืองเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน งานโปรโมทประวัติศาสตร์ความเป็นมา ศิลปวัฒนธรรม และประเพณีอันดีงามของไทยสู่สายตาชาวโลก ซ้อมใหญ่ ณ โซน Forum ด้วยพรีเซนเทชั่นแบบแอนิเมชั่น 3 มิติอันทันสมัยซึ่งจะพาทุกท่านเพลิดเพลินไปกับเรื่องราวหลากหลายของประเทศไทยเรา






f fashion Grand Opening


1 Dec 09


1st Floor, Central Court


อลังการงานเปิดตัวช้อป f fashion แบรนด์เสื้อผ้าสัญชาติฝรั่งเศส ที่แรกและที่เดียวในเมืองไทยที่หนุ่มสาวเทรนดี้จะได้สวมใส่เสื้อผ้าคอลเลกชั่นเดียวกับนางแบบบนเวทีระดับโลก






Nancy Studio: New Year Special Calendar and Gift Set


From now onwards


3rd Floor, Beacon Zone


ร่วมส่งความสุขด้วยการ์ดและปฏิทินที่ออกแบบด้วยตัวคุณเอง เพียงมี Scrap Kit for Gift เช่น กระดาษ อุปกรณ์การตกแต่งการ์ดต่างๆ ก็สามารถผลิตงานแฮนด์เมดเก๋ไก๋ได้อย่างง่ายดาย






Wi-Fi Internet


ช้อบครบ 1,500 บาท รับชั่วโมง Internet ฟรี 2.5 ชั่วโมง มูลค่า 100 บาท (สินค้ามีจำนวนจำกัด)






SMS Wishing Tree


1 Dec ’09 – 8 Jan ‘10


พิเศษ ลูกค้าเอไอเอส ส่งความสุขถึงคนที่คุณรักผ่าน SMS Wishing Tree






Christmas Photo Spot


18 Nov 09 – 8 Jan 10


CentralWorld Square


‎สนุกกับการถ่ายรูปกับต้นคริสต์มาสที่ตกแต่งอย่างสวยงามและสูงที่สุดใน Southeast Asia พร้อมเก็บภาพความประทับใจนี้กลับไปด้วยรูปถ่ายฟรีจาก Big Camera


โรงภาพยนตร์ที่พวกเขาเคยจับมือกัน

No Comments »

          หลังจาก ลงภาพ "โรงมหรสุข" ไป  ก็มีบางท่านคิดถึงโรงนั้นโรงนี้ตามอายุ  ผมเลยลองไปเสิร์ชหาภาพในเว็บต่างๆเผื่อมาฝากกัน  ก็ไปเจอ thaifilm.com (คุณ "สายลมที่ผ่านมา" ได้เอารูปโรงหนังออสก้าร์มาฝากไว้)  มีคุณปี๊ปและอีกหลายท่านนำภาพและข้อมูลมาลงไว้แน่นปึ๊ก  เป็นแฟนพันธุ์แท้โรงหนังได้สบาย 
          อ่านแล้วเคลิบเคลิ้ม  นึกถึงสมัยที่ยังไม่มีภาวะเรือนกระจก..รถเก๋งยังไม่ติดแอร์..นอนกางมุ้งฟัง เพลงลูกทุ่ง..และสมัยที่โรงหนังยังไม่ "มัลติเพล็กซ์"
          หนุ่มสาวสมัยก่อน   ก็ได้โรงหนังนี่แหละ..เป็นที่ "จับมือคนรักครั้งแรก"  พวกเราในนี้ส่วนใหญ่ก็เคยมีประสบการณ์ "กุมมือ" ก่อน "กุมหัวใจคนรัก" ในโรงหนังมิใช่หรือ?
          ว่าแล้วก็ขอพูดเรื่องโรงหนังอีกครั้งเถิด  และขออนุญาตินำภาพและข้อมูลบางส่วนจาก www.thaifilm.com (บวกกับประสบการณ์ส่วนตัว) มาลงเพิ่มราศีให้กับบล็อกนี้นะครับ
          กรุงเกษม...อยู่ถัดจากเฉลิมเขตร์  เคยฉาย The Sound of Music นานถึง 6 เดือน  ฉายไอ้หนุ่มซินตึ๊ง ไอ้หนุ่มแต้จิ๋ว  ดังมาก  รูปนี้กำลังฉายเรื่องหงษ์หยกปี 2499  ผมยังไม่เกิดครับ ..ผมไม่ใช่แดง ไบเล่ย์

          ปัจจุบัน..คือตรงบริเวณป้อมยาม

          โปรแกรมทองของโคลีเซี่ยม..มนต์รักลูกทุ่ง  เข้าฉาย 15 พฤษภาคม 2513 ใช้เวลา 121 วันทำรายได้ 6 ล้านบาท  จากการฉายแค่โรงเดียว



          พระโขนงเธียเตอร์..สร้างปี 2514  จุได้ 3,100 ที่นั่ง  ใหญ่ที่สุดในเอเชีย


          พระโขนงราม่า..อีกโรงดังย่านพระโขนง

          ปรินซ์ ราม่า..ตึกเก่าย่านบางรัก บริเวณถนนเจริญกรุงช่วงต่อปลายถนนสีลม  เป็นโรงชั้น 2 โรงแรกกระมังที่เริ่มฉายหนัง "อย่างว่า" เป็นที่เลื่องลือตั้งแต่ผมยังเด็ก


          แม็คเคนน่า..เชิงสะพานหัวช้าง  ตอนเป็นนักศึกษาไปดูบ่อย  เพราะยังมี 2 แถวหน้าราคา 20 บาท

          บางลำพู..โรงนี้เก่าสุดพรรณนา  ปี พ.ศ.2460 ช่องเก่าๆ ที่อยู่ระหว่างร้านแว่นกับร้านเพชรนั่นแหละทางเข้า

          โอเอ..ย่านราชปรารภ

          เมโทร..อยู่ปากซอยเพชรบุรี 13  ฉายหนังฝรั่งพากษ์ไทย

          พาต้า..ที่พึ่งความบันเทิงของเด็กธรรมศาสตร์ยุคท่าพระจันทร์เรืองรอง  เปิดฉายครั้งแรกปี 2525 ด้วยเรื่อง E.T.

          พาต้า..ที่ยะลา ปี 2532

          พาราไดซ์..ก่อนนี้ชื่อ "มูนไลท์เธียเตอร์"  มีชั้น 2 ด้วย

          ในขณะที่โรงอื่นตั้งชื่อเมืองในยุโรป โรงนี้ไม่คิดมาก..กรุงเทพรามา

          วง เวียนใหญ่ราม่า..เป็นโรงชั้น 2 ที่ผมเข้าไปดูหนังมากที่สุด  และเกือบถูกพร่าสวาทที่นี่  ตอนที่ดู "กบแหย่เสือ" ควบ "นักฆ่าเพลินสวาท" อเลน เดอ ลอง นำแสดง  ผมถูกผู้ชายข้างๆเข้ามาชวนคุยและเริ่มลวนลาม ลุกล้ำ..ถึงกับรูดซิบ(ผม)  แต่ยังไม่เสียตัวครับ..เพราะผมขอตัวเข้าห้องน้ำก่อน

          เฉลิมเกียรติราม่า..1 ใน 4 โรงดังย่านวงเวียนใหญ่ (สุริยาฯ, ไทยรามา,วงเวียนใหญ่)


          สุ ริยาเธียเตอร์..ฉายหนังฝรั่งควบ  ขณะที่วงเวียนใหญ่ราม่าฉายหนังจีน  เฉลิมเกียรติฉายหนังไทย และ ไทยรามาฉายทั้งจีนทั้งไทย  แต่ตอนนี้ฉายหนังอะไรวะ..ฝรั่ง ควบญี่ปุ่น ควบจีน..ควบกันทั้งวัน!!

          ได ร์ฟ อิน..ขับรถเข้าไปดูหนังกันทั้งคันทั้งคน  ที่อเมริกามีเยอะ  ไทยเราก็เคยมีที่ลาดพร้าว 130  ตอนนี้เป็นไดร์ฟอิน โฮเตลไปแล้ว..เข้าไปทั้งคันทั้งคนเหมือนเดิม..อิอิ!

          บรอดเวย์..บนถนนเจริญกรุง  ใกล้แยกหมอมี  โรงนี้แหละที่ผมดูหนังปลุกใจเสือป่าครั้งแรก  ตั้งแต่ยังเป็นลูกเสือสามัญ  ยังจำภาพได้เลยเป็นหนังญี่ปุ่น  ซึ่งตอนนั้นผมคิดว่าหนังญี่ปุ่นจะมีแต่พวกไอ้มดแดง ยอดมนุษย์  กะจะเข้าไปดูอุลตร้าแมน (จริงๆนะครับ) ที่ไหนได้...!  ไม่เห็นสัตว์ประหลาดสักตัว  เห็นแต่อะไรไม่รู้..กระดึ๊บๆ!

          สิริราม่า..เคยหลงเข้าไปดูหนังเฉินหลงพูดจีนกลาง  งงทั้งเรื่อง
         
          จันทิมาเธียเตอร์..ริมถนนนครไชยศรี  แข่งกับศรีย่านเธียเตอร์

          นิวยอร์ค..เป๋ อกไก่  เคยข่มขืนฆ่านักศึกษารามคำแหงในห้องน้ำ! ปี 2525  เป็นครั้งแรกครั้งเดียวที่มีข่าว "ข่มขืนฆ่า" ในโรงหนัง 

          นนทบุรีราม่า..ขึ้นชื่อสุดๆเรื่องฉายหนังวาบหวิว!



          ธนบุรีรามา..ใกล้แยกบรมราชชนนี หรือแยก 35 โบล์เดิม  ดูภาพขวา..ยืนหยัดถึงยุคแฮร์รี่ พอตเตอร์ เลยทีเดียว

          บางแครามา..โรงชั้น 2 ที่เคยฉายถึง 5 เรื่องควบ


          อัมพร..อุดรธานี ปี 2533 อีก 2 ปีต่อมาปิดกิจการ

          ดาดา..ใกล้ศูนย์การค้าเมโทร ถนนเพชรบุรี  มีโรงคู่แฝดชื่อพอลลี่

          ศาลาเฉลิมบุรี..ฉายสุภาพบุรุษเสือไทย ปี 2492

          เฉลิมไทย..ฉายเรื่องปาหนัน  หนังของคุณแท้ ประกาศวุฒิสาร ปี 2501


          เฉลิมเขตร์..รูปนี้ถ่ายโดยคุณแท้ ประกาศวุฒิสาร  ศิลปินแห่งชาติ  ผู้ที่ใช้ชื่อ "จาหมอ" นำมาฝากผมในเว็บ www.thaifilm.com.  ขอบพระคุณครับ

ZEN Art of Living 2009

No Comments »






ห้างสรรพสินค้าเซน เปิดตัวงาน ZEN Art of Living 2009 งานแสดงเฟอร์นิเจอร์และสินค้าของแต่งบ้านระดับมาสเตอร์พีซจากแบรนด์ชั้นนำ ทั้งไทยและเทศ โดยมีแขกรับเชิญคนดังมาร่วมงานและจัดแสดงผลงานอย่างเอิกเกริกเมื่อเร็วๆ นิ้

งานครั้งนี้เปิดโอกาสให้ผู้ชมได้เพลิดเพลินกับงานแสดงสินค้าเครื่องเรือน หลากรูปแบบ แต่งเติมจินตนาการด้วยนิทรรศการภาพวาดจากเหล่าศิลปินอิสระ ตื่นตากับของสะสมส่วนตัวของเหล่าคนดัง และตระการตาไปกับศิลปะการจัดโต๊ะอาหารอย่างวิจิตรบรรจง

ตื่นตาตื่นใจไปกับของสารพัดแต่งบ้านและงานศิลป์จากทั่วโลก
ที่งาน ZEN Art of Living 2009
วันนี้ - 22 พฤศจิกายน 2552


ZEN Art of Living 2009 Launched
It’s time to beautify your home sweet home with spectacular design products featured at ZEN Art of Living 2009.


ZEN, Asia’s Lifestyle Mega-Store, recently launched the annual design and art fair, ZEN Art of Living 2009, the grand opening of which was joined by a large number VIPs and special guests.

The fair allows visitors to be inspired by spectacular home décor, rare objets d’art and latest arrivals as well as splendid private collectibles of high profile celebrities and be spellbound by elaborate table settings.

Feast your eyes on the breathtaking art exhibition and home designs and arts from around the world at ZEN Art of Living
Now – 22 November 2009
at ZEN Event Gallery, Level 8
ZEN Home, Level 7 and F Zen Design Showcase Level 1 & Level 2

Share



Total View

พีรณัฐ ไกรคุ้ม Peeranat Krikhoom
bkk09man@gmail.com